วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ขั้นตอนของ ระบบบำบัดน้ำเสีย

การบำบัดน้ำเสีย จะต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสมเพราะ น้ำเสีย มีแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน ทำให้ส่วนประกอบที่ปนเปื้อนมานั้นไม่เหมือนกัน ระบบบำบัดน้ำเสีย ที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพของน้ำจึงต้องผ่านขั้นตอนดังต่อไปนี้

ระบบบำบัดน้ำเสีย

1.ระบบบำบัดน้ำเสีย ขั้นเตรียมการ
เป็นขั้นตอนการกำจัดสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำเสีย เช่น เศษขยะ กรวดทราย เป็นต้น เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำเสียและเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับเครื่องสูบน้ำ มีขั้นตอนดังนี้
  • การดักด้วยตระแกรง เป็นการกำจัดของแข็งขนาดใหญ่โดยใช้ตะแกรง 2 ประเภทคือ ตะแกรงหยาบและตะแกรงละเอียด
  • การบดตัดเพื่อลดขนาดหรือปริมาตรของแข็งให้เล็กลง ถ้าสิ่งสกปรกที่ปนมากับน้ำเสียสามารถเน่าเปื่อยได้จะต้องใช้เครื่องมือบดตัดให้ละเอียดก่อนแยกออกด้วยการตกตะกอน
  • การดักกรวดทราย เป็นการกำจัดพวกกรวดทราย ทำให้ตกตะกอนในรางดักกรวดทราย โดยการลดความเร็วน้ำลง
  • การกำจัดไขมันและน้ำมัน เป็นการกำจัดไขมันและน้ำมันซึ่งมักอยู่ในน้ำเสียที่มาจากครัวเรือน และโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภท โดยการกักน้ำเสียไว้ในบ่อดักไขมันในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อให้น้ำมันและไขมันลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำแล้วใช้เครื่องตักหรือกวาดออกจากบ่อ
2.ระบบบำบัดน้ำเสีย ขั้นที่สอง
เป็นการกำจัดน้ำเสียที่เป็นพวกสารอินทรีย์อยู่ในรูปสารละลายหรืออนุภาคคอลลอยด์ โดยทั่วไปมักจะเรียกการบำบัด ขั้นที่สองนี้ว่า "การบำบัดน้ำเสียด้วยขบวนการทางชีววิทยา" เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยจุลินทรีย์ในการย่อยสลาย หรือทำลายความสกปรกในน้ำเสีย การบำบัดน้ำเสียในปัจจุบันนื้อย่างน้อยจะต้องบำบัดถึงขั้นที่สองนี้ เพื่อให้น้ำเสียที่ผ่าน การบำบัดแล้วมีคุณภาพมาตรฐานน้ำทิ้งที่ทางราชการกำหนดไว้ การบำบัดน้ำเสียด้วยขบวนการทางชีววิทยาแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ขบวนการที่ใช้ออกซิเจน เช่น ระบบบ่อเติมอากาศ ระบบแคติเวตเตดสลัดจ์ ระบบแผ่นหมุนชีวภาพ ฯลฯ และ ขบวนการที่ไม่ใช้ออกซิเจน เช่น ระบบถังกรองไร้อากาศ ระบบถังหมักตะกอน ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์ ที่ทำหน้าที่ย่อยสลาย

3.ระบบบำบัดน้ำเสีย ขั้นสูง
เป็นการบำบัดน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดในขั้นที่สองมาแล้ว เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกบางอย่างที่ยังเหลืออยู่ เช่น โลหะหนัก หรือเชื้อโรคบางชนิดก่อนจะระบายน้ำทิ้งลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะการบำบัดขั้นนี้มักไม่นิยมปฏิบัติกัน เนื่องจากมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและเสียค่าใช้จ่ายสูง นอกจากผู้บำบัดจะมีวัตถุประสงค์ในการนำน้ำที่บำบัดแล้วกลับคืนมาใช้อีกครั้ง

ที่มา : ฝ่ายสุขาภิบาลโรงงาน กองอนามัยสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร